
มักจะมีคนไข้สงสัยกันว่า ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงต้องจัดฟัน จัดเป็นแฟชั่นตามเพื่อนๆ หรือเพราะมีความจำเป็น และควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไร จัดฟันเร็วเกินไปจำเป็นต้องกลับมาจัดใหม่อีกเพราะอะไร คำถามต่างๆ เหล่านี้มักได้ยินอยู่เสมอ จึงอยากเขียนเล่าเป็นความรู้พื้นฐานเพื่อใช้พิจารณาก่อนปรึกษาทันตแพทย์
ถ้าจะแยกปัญหาการสบฟัน น่าจะแยกเป็นความผิดปกติของการเรียงตัวฟันโดยตรง และ/หรือความผิดปกติของความสัมพันธ์ของขากรรไกร ขออธิบายคร่าวๆ ดังนี้คือ
1. ความผิดปกติของการเรียงตัวฟัน สาเหตุอาจเกิดจาก
- ขนาดของฟัน ใหญ่หรือเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของขากรรไกร ทำให้เกิดฟันซ้อนเก หรือฟันห่าง ตามลำดับ
- การดูดนิ้ว, การดุนลิ้น ทำให้ฟันหน้ายื่น ห่าง
- การเลิกขวดนมช้ากว่าเวลาอันควร ทันตแพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้เปลี่ยนจากการดูดขวดมาเป็นแก้ว ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป
- ลักษณะนิสัย เช่น ชอบกัดริมฝีปากล่าง เป็นต้น ก็ทำให้ฟันหน้าบนยื่น/ห่าง
2. ความผิดปกติของความสัมพันธ์ของขากรรไกร สาเหตุอาจเกิดจาก
- กรรมพันธุ์ ตัวอย่างเช่น บุคคลในครอบครัวมีขากรรไกรล่างใหญ่ หรือฟันหน้าบน – ล่าง ยื่นอูม ซึ่ง
เป็นลักษณะทางกรรมพันธุ์เช่นกัน
- โรคบางชนิด หรืออุบัติเหตุ เป็นต้น
การเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุน้อยๆ จะสามารถแก้ปัญหา หรือทำให้ปัญหาบรรเทาลงได้ จึงไม่มีข้อกำหนดว่าควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไหร่ แต่ควรเริ่มให้ทันตแพทย์ตรวจตั้งแต่ฟันแท้ขึ้นประมาณ 2-6 ซี่
การจัดฟันแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. การจัดฟันแบบถอดได้ เหมาะกับคนไข้อายุ 8-11 ปี ยังมีฟันน้ำนมเหลืออยู่บ้าง (mixed dentition) มักจะทำในกรณีที่พบว่าปัญหาการเรียงตัวของฟันไม่รุนแรง หรือจัดเพื่อเตรียมสภาพฟันก่อนจัดฟันแบบติดแน่นต่อไป เช่น ในกรณีคนไข้ดูดนิ้วมาตั้งแต่เล็กไม่สามารถเลิกได้ ผลทำให้ฟันบนยื่น - ห่าง การใส่เครื่องมือแก้ปัญหาดูดนิ้วตั้งแต่เล็ก จะสามารถทำให้เด็กเลิกได้ง่ายกว่ารอจนเด็กโต หรือฟันหน้าล่างคร่อมฟันหน้าบน 1-4 ซี่ การใส่เครื่องมือแบบถอดได้ประมาณ 8-12 เดือนทำให้ฟันสบได้สวยงามขึ้น
2. การจัดฟันแบบติดแน่น เหมาะกับคนไข้อายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีฟันแท้ขึ้นเกือบครบทั้งปาก (อาจจะยังเหลือฟันน้ำนม 1-4 ซี่ ก็สามารถเริ่มจัดได้) ผลขอการจัดฟันแบบติดแน่นจะทำให้ฟันมีการเรียงตัวสวยงาม มีรูปหน้าที่มีความสมดุลกับจมูกและคาง ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการจัด 2-3 ปี ภายหลังการจัดฟัน การใส่ retainer ประคองฟันไว้มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่ใส่จะทำให้ฟันล้มได้ง่าย จึงควรใส่ retainer เพื่อป้องกันการกลับมาจัดฟันใหม่อีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น